thaipbs 1

New Director

Recruitment

เปิดรับสมัคร

ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.

ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มีนาคม 2568

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส

เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียง

และแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มีนาคม 2568

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส

เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียง

และแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย

ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มีนาคม 2568

Q 1
ThaiPBS
Q 2

ด้วยองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) เป็นองค์การที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 เพื่อทำหน้าที่องค์การสื่อสาธารณะด้านวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ แต่ดำเนินการภายใต้ทุน ทรัพย์สิน และรายได้ขององค์การ มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย

อาศัยอำนาจตามข้อบังคับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการรับสมัคร และการสรรหาผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2568 ข้อ 5 วรรค 2 กำหนดการ วัน เวลา วิธีการสมัครให้เป็นไปตามประกาศของประธานคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย จึงออกไว้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

คุณสมบัติผู้สมัคร


1. คุณสมบัติทั่วไป

เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 มาตรา 32 คือ ผู้อำนวยการต้องเป็นผู้สามารถทำงานให้แก่องค์การได้เต็มเวลา เป็นผู้นำและรับผิดชอบในการบริหารกิจการขององค์การตามวัตถุประสงค์ขององค์การและนโยบายของคณะกรรมการนโยบาย และต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

1.1 มีสัญชาติไทย

1.2 มีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ ในวันที่ได้รับการแต่งตั้ง

1.3 มีความรู้ความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในกิจการวิทยุกระจายเสียงกิจการวิทยุโทรทัศน์หรือการสื่อสารมวลชนหรือเผยแพร่รายการในระบบอื่นหรือเทคโนโลยีทันสมัยอื่น

1.4 ไม่มีลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

  • ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
  • ไม่เป็นบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สองปีขึ้นไป โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันที่ได้รับการเสนอชื่อ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
  • ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงหรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
  • ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในการปฏิบัติงาน
  • ไม่เคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

1.5 ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง

1.6 ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ เจ้าหน้าที่ หรือลูกจ้างขององค์การหรือที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีสัญญาจ้างกับองค์การ

1.7 ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่กระทำกับองค์การ หรือในกิจการที่เป็นการแข่งขันกับกิจการขององค์การ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เว้นแต่การเข้าบริหารหรือเข้าร่วมดำเนินกิจการร่วมทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการนโยบาย หรือคณะกรรมการบริหารมอบหมาย

ในการบริหารกิจการขององค์การ ผู้อำนวยการต้องรับผิดชอบต่อคณะกรรมการนโยบาย

2. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง

มีความรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กรหรือกิจการ ดังต่อไปนี้

2.1 เป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์ และผลงานการบริหารเป็นที่ประจักษ์

2.2 มีประสบการณ์ในการบริหารองค์กร ดังนี้

  • กรณีหน่วยงานของรัฐ ต้องเคยดำรงตำแหน่งหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดี หรือเทียบเท่า หรือรองผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กรหรือเทียบเท่า
  • กรณีเป็นผู้บริหารสถาบันวิชาการ ต้องเคยดำรงตำแหน่งหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าคณบดีหรือเทียบเท่าขึ้นไป
  • กรณีหน่วยงานเอกชน ต้องเคยดำรงตำแหน่งหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร โดยมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

2.3 มีความรู้ความเข้าใจเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 เข้าใจภูมิทัศน์สื่อ ความเป็นสื่อสาธารณะ และมีประสบการณ์การบริหารเชิงกลยุทธ์

3. วาระการดำรงตำแหน่ง

ผู้อำนวยการอยู่ในตำแหน่งตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาจ้าง ซึ่งต้องไม่เกินคราวละสี่ปีแต่อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้

Q 1
ThaiPBS
Q 2

วิธีการสมัครและการจัดส่งเอกสาร


4. วัน เวลา และสถานที่ยื่นใบสมัคร พร้อมเอกสารประกอบ

ยื่นใบสมัครด้วยตนเอง

ยื่นใบสมัคร ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 – 18.00 น. (ทุกวัน เว้นวันหยุดราชการ)

สถานที่: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ฝ่ายสนับสนุนคณะกรรมการและผู้บริหาร ชั้น 4 อาคารอำนวยการ

ยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์

ที่อยู่จัดส่ง: ประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. เลขที่ 145 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

และให้นำส่งข้อมูลหลักฐานการสมัครทั้งหมดรวมถึงหลักฐานการส่งไปรษณีย์ ในรูปแบบไฟล์ PDF มายังอีเมล DirectorSelection@thaipbs.or.th ภายในวันที่ 30 มีนาคม 2568

หมายเหตุ: ผู้ที่นำส่งข้อมูลหลักฐานการสมัครภายหลังวันที่ได้กำหนดไว้ จะไม่ได้รับการพิจารณา

ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ประทับตราไปรษณีย์ภายในวันที่ 30 มีนาคม 2568

2. ยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์

ที่อยู่จัดส่ง: ประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. เลขที่ 145 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

และให้นำส่งข้อมูลหลักฐานการสมัครทั้งหมดรวมถึงหลักฐานการส่งไปรษณีย์ ในรูปแบบไฟล์ PDF มายังอีเมล DirectorSelection@thaipbs.or.th ภายในวันที่ 30 มีนาคม 2568

หมายเหตุ: ผู้ที่นำส่งข้อมูลหลักฐานการสมัครภายหลังวันที่ได้กำหนดไว้ จะไม่ได้รับการพิจารณา

ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ประทับตราไปรษณีย์ภายในวันที่ 30 มีนาคม 2568

Q 1
ThaiPBS
Q 2

เอกสารสำคัญสำหรับการสมัคร


5. เอกสารหลักฐานที่ต้องยื่นในการสมัคร

ผู้ที่สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือก จะต้องยื่นใบสมัครตามแบบที่คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท.กำหนด พร้อมเอกสารประกอบการสมัคร ได้แก่

5.1 ใบสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหา ตามแบบขององค์การ ที่ผู้สมัครกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว พร้อมรูปถ่ายสีของผู้สมัคร หน้าตรง ไม่สวมหมวก ขนาด 2 นิ้ว ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนนับถึงวันยื่นใบสมัคร ดาวน์โหลดใบสมัคร (จำนวน 1 ชุด)

5.2 ประวัติการทำงานของผู้สมัคร (จำนวน 1 ชุด)

5.3 สำเนาหลักฐานการศึกษา และการฝึกอบรม (จำนวน 1 ชุด)

5.4 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหนังสือรับรองสถานภาพอื่นใดที่หน่วยงานของรัฐออกให้ (จำนวน 2 ชุด)

5.5 หลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสำคัญสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (กรณีที่ชื่อ-นามสกุลในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน) (จำนวน 1 ชุด)

5.6 หลักฐานแสดงคุณสมบัติ มีประสบการณ์ในการบริหารองค์กร หรือมีหนังสือรับรองจากต้นสังกัด หรือการรับรองจากต้นสังกัด โดยกรณีที่เป็นองค์กรเอกชนให้หน่วยงานต้นสังกัดรับรองทุนจดทะเบียนไว้ด้วย (จำนวน 1 ชุด)

5.7 ผลงาน/โครงการสำคัญในความรับผิดชอบหรือประสบการณ์และความสำเร็จที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานเป็นที่ประจักษ์ และ/หรือ เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม (จำนวน 1 ชุด)

5.8 เอกสารนำเสนอวิสัยทัศน์และแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของผู้สมัคร ซึ่งแสดงถึงความรู้ความเข้าใจในวัตถุประสงค์และพันธกิจขององค์การสื่อสาธารณะ การมีส่วนร่วม ความคิดสร้างสรรค์ ภาวะผู้นำและทักษะด้านการสื่อสาร รวมทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม ตลอดจนการเสนอเป้าหมายและจัดทำแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อแสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่าวิสัยทัศน์จะถูกนำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อนำพาองค์การให้บรรลุพันธกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ในการบริหารจัดการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยเป็นภาษาไทย ความยาวไม่เกิน 7 หน้ากระดาษพิมพ์ (A4) ขนาดตัวอักษร 16 (จำนวน 1 ชุด)

5.9 เอกสารนำเสนอวิสัยทัศน์และแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของผู้สมัครรายประเด็น ซึ่งแสดงถึงความรู้ความเข้าใจในประเด็นสำคัญขององค์การสื่อสาธารณะ ความยาวประเด็นละไม่เกิน 1 หน้ากระดาษพิมพ์ (A4) ขนาดตัวอักษร 16 จำนวน 6 ประเด็น (จำนวน 1 ชุด) ดังนี้:

  • โจทย์ท้าทาย ส.ส.ท. ภายใต้ภูมิทัศน์สื่อแห่งอนาคตทั้งในระดับโลกและประเทศไทย รวมถึงการปรับตัวเพื่อรับมือสถานการณ์ในยุคหลังสิ้นสุดอายุใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ และการเปลี่ยนผ่านสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล
  • แนวทางการปรับโครงสร้างและวัฒนธรรมองค์กรเพื่อเปลี่ยนผ่านให้ ส.ส.ท. ตอบโจทย์ท้าทาย โดยสอดคล้องเหมาะสมกับสภาพการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
  • แนวทางการหารายได้เพิ่มเติม เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์การ
  • แนวทางการพัฒนาคุณภาพข่าวและรายการเพื่อสร้างความยอมรับและความแตกต่าง ทั้งการเผยแพร่ทางโทรทัศน์และแพลตฟอร์มออนไลน์
  • แนวทางการขยายฐานผู้ชมและผู้ฟังโดยยังคงรักษาความเป็นสื่อสาธารณะอย่างเข้มข้น
  • แนวทางการใช้สื่อสาธารณะอย่างคุ้มค่าเต็มศักยภาพในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม เช่น การปฏิรูประบบการศึกษา การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม การสร้างประชาธิปไตยและสันติภาพ

5.10 ให้ยื่นใบสมัครด้วยตนเองหรือส่งใบสมัครทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ พร้อมเอกสารหลักฐานภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันประกาศรับสมัคร (ในกรณีที่ส่งใบสมัครทางไปรษณีย์ ให้ถือวันที่ลงประทับตราไปรษณีย์)

  • ผู้สมัครต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและลงลายมือชื่อรับรองเอกสารหลักฐานให้ถูกต้องครบถ้วนทุกหน้าตามจำนวนที่กำหนดในวันยื่นใบสมัคร
  • ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้สมัครรายใดแสดงเอกสารหลักฐาน คุณสมบัติ อย่างใดไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ผู้สมัครรายนั้นไม่มีสิทธิเข้ารับการพิจารณาคัดเลือก และต้องรับผิดชอบตามบทบัญญัติของกฎหมายต่อไป
  • เอกสารในการสมัครคณะกรรมการสรรหาฯ จะไม่ส่งคืน
Q 1
ThaiPBS
Q 2

เงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวิธีการคัดเลือกบุคคล


6. เงื่อนไข

ผู้สมัครเพื่อเข้ารับการสรรหายินยอมอนุญาตให้คณะกรรมการสรรหาฯ เก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการสรรหาเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการสรรหาฯ จะดูแลรักษาข้อมูลด้วยความปลอดภัยขั้นสูงสุด จะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด และจะทำการลบข้อมูลทันทีหลังจากกระบวนการ เสร็จสิ้น ตามรายละเอียดเพิ่มเติมในนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ทาง www.thaipbs.or.th ซึ่งความยินยอมดังกล่าวนี้สามารถเพิกถอนได้ทุกเมื่อผ่านระบบที่พร้อมจะดำเนินการลบข้อมูลที่ให้ไว้เพียงแจ้งความประสงค์ยกเลิก และเมื่อไรก็ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็จะแจ้งให้ทราบ และขอความยินยอมเป็นรายกรณีก่อนเสมอ

7. หลักเกณฑ์การสมัคร และวิธีการคัดเลือกบุคคล

ที่สมควรได้รับการคัดเลือกเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.

7.1 ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในข้อ 1 และต้องเป็นผู้มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญที่กำหนดไว้ในคุณสมบัติเฉพาะตามข้อ 2

7.2 คณะกรรมการสรรหาฯ จัดให้มีการประกาศรับสมัครเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางการออกอากาศ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสื่ออื่นๆ ขององค์การ ที่ระบุสาระสำคัญและกำหนดระยะเวลาการรับสมัคร

7.3 คณะกรรมการสรรหาฯ จะพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรองคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 32 ของพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 และเผยแพร่ต่อสาธารณะเพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับคุณสมบัติ ประวัติ พฤติการณ์ หรือความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ ของผู้สมัคร ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ จะพิจารณาความเหมาะสมจากใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครตามที่กำหนดไว้ข้างต้นเป็นเกณฑ์ โดยคำนึงถึงประวัติ ผลงาน ความรู้ ความสามารถ เอกสารนำเสนอวิสัยทัศน์และแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของผู้สมัคร และเอกสารนำเสนอวิสัยทัศน์และแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของผู้สมัครรายประเด็น คณะกรรมการสรรหาฯ จะประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาฯ ในวันที่ 11 พฤษภาคม หรือ 12 พฤษภาคม 2568 ตามเวลาและสถานที่ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ จะแจ้งให้ทราบ หากมีความจำเป็นหรือมีเหตุสุดวิสัย คณะกรรมการสรรหาฯ อาจกำหนดวันและเวลาใหม่ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป

การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ ให้ถือมติที่ประชุมขอคณะกรรมการสรรหาฯ เป็นที่สุด

7.4 ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือก ต้องแสดงตนเพื่อนำเสนอวิสัยทัศน์ด้วยวาจาต่อที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ โดยใช้เรียงลำดับการจับสลาก ตาม วัน เวลา ที่คณะกรรมการสรรหาฯ กำหนด ณ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางเว็บไซต์ และสื่อสังคมขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย รวมถึงการบันทึกภาพและเสียงขณะเข้าแสดงตนเพื่อนำเสนอวิสัยทัศน์และตอบคำถาม ซึ่งผู้สมัครต้องดำเนินการ ดังนี้

  • แนะนำตนเอง พร้อมกับแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ในการบริหารองค์กร
  • แสดงวิสัยทัศน์ และแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของผู้สมัคร ซึ่งแสดงถึงความรู้ความเข้าใจในวัตถุประสงค์และพันธกิจขององค์การสื่อสาธารณะ การมีส่วนร่วม ความคิดสร้างสรรค์ ภาวะผู้นำและทักษะด้านการสื่อสาร รวมทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม ตลอดจนการเสนอเป้าหมายในการนำพาองค์การให้บรรลุพันธกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที ทั้งนี้ อนุญาตให้ใช้สื่อ เอกสาร และอุปกรณ์อื่นใดประกอบการนำเสนอได้
  • ผู้สมัครแต่ละคนต้องตอบคำถามของคณะกรรมการสรรหา โดยใช้เวลาไม่เกิน 40 นาที โดยไม่อนุญาตให้ใช้สื่อ เอกสาร และอุปกรณ์อื่นใดประกอบการตอบคำถาม ยกเว้นอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการในการสื่อสาร
  • ผู้สมัครที่ไม่มาแสดงตนเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ด้วยวาจาและตอบคำถามต่อคณะกรรมการสรรหาฯ ในวัน เวลา และสถานที่ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ กำหนด ให้ถือว่าผู้สมัครคนนั้นสละสิทธิ์
  • ผู้สมัครยินยอมให้คณะกรรมการสรรหาฯ บันทึกภาพและเสียงระหว่างแสดงตนเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ด้วยวาจาและตอบคำถาม ซึ่งภาพและเสียงดังกล่าวจะนำไปเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ ตามข้อ 7.4 และนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ต่อไป

7.5 คณะกรรมการสรรหาฯ จะคัดเลือกผู้สมัครที่ได้แสดงตนและวิสัยทัศน์ตามข้อ 7.4 ให้เหลือผู้ที่เหมาะสมตามจำนวนที่กำหนดไว้ในข้อ 9.1 แห่งข้อบังคับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการรับสมัคร และการสรรหาผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 โดยวิธีลงคะแนน เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. เรียงตามลำดับคะแนน

8. กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้

ให้คณะกรรมการสรรหาฯ เป็นผู้วินิจฉัยและต้องมีมติไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการสรรหาฯ ทั้งคณะ โดยคำวินิจฉัยและมติที่ประชุมของคณะกรรมการสรรหาฯ ให้ถือเป็นที่สุด

Q 1
ThaiPBS
Q 2

ช่องทางติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม


9. การขอรับใบสมัครและสอบถามข้อมูล

  • ผู้สมัครสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2790-2117, 0-2790-2119 และ 0-2790-2147
  • ดาวน์โหลดรายละเอียดประกาศการรับสมัคร ได้ที่ www.thaipbs.or.th/NewDirector
  • ติดต่อขอรับใบสมัครด้วยตนเองได้ที่สำนักงานใหญ่ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เลขที่ 145 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

กระบวนการสรรหาและคัดเลือก


วิธีการคัดเลือก

  1. ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือก ต้องแสดงตนเพื่อนำเสนอวิสัยทัศน์ด้วยวาจาต่อที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ โดยเรียงลำดับตามการจับสลาก โดยมีการถ่ายทอดสดทางเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ของ ส.ส.ท.
  2. ผู้สมัครแต่ละคนต้องตอบคำถามของคณะกรรมการสรรหาฯ โดยใช้เวลาไม่เกิน 40 นาที โดยไม่อนุญาตให้ใช้สื่อ เอกสาร และอุปกรณ์อื่นใดประกอบการตอบคำถาม
  3. คณะกรรมการสรรหาฯ จะคัดเลือกผู้สมัครที่ได้แสดงตนและวิสัยทัศน์ให้เหลือผู้ที่เหมาะสมไม่น้อยกว่า 3 คน และไม่เกิน 5 คน โดยวิธีลงคะแนน เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. เรียงตามลำดับคะแนน

เอกสารที่ต้องใช้ยื่นพร้อมใบสมัคร

ผู้สมัครต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและลงลายมือชื่อรับรองเอกสารหลักฐานให้ถูกต้องครบถ้วนทุกหน้าตามจำนวนที่กำหนดในวันยื่นใบสมัคร

ช่องทางติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม


ติดต่อสอบถามข้อมูล

  • หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมัคร สามารถติดต่อได้ที่:
  • ฝ่ายสนับสนุนคณะกรรมการและผู้บริหาร
  • โทรศัพท์: 02-790-2000 ต่อ 1234, 1235
  • โทรสาร: 02-790-2020
  • อีเมล: DirectorSelection@thaipbs.or.th
  • เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 08:30-17:30 น. (เว้นวันหยุดราชการ)

ข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้สมัครสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-790-2117, 02-790-2114, 02-790-2117 และ 02-790-2137 หรือดาวน์โหลดรายละเอียดประกาศการรับสมัครได้ที่ www.thaipbs.or.th/NewDirector

ทิศทางนโยบายของคณะกรรมการนโยบาย

ดร. นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.

ดร. นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์

ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.


ดร. นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์

ไทยพีบีเอสยังคงเดินหน้าสู่การเป็นสื่อสาธารณะ ด้วยนโยบายที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยึดถือผลประโยชน์สาธารณะและความคุ้มค่าเป็นสำคัญ พร้อมต่อยอดบทบาทให้ครอบคลุมและส่งผลต่อการพัฒนา สังคมที่รู้เท่าทัน, สังคมที่ตื่นตัว และ สังคมที่พร้อมปรับตัว 

Q 1
ThaiPBS
Q 2

17 ปี Thai PBS กับการสร้างพลังพลเมือง

รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.


รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล

จากวันแรกสู่วันนี้ 17 ปี Thai PBS ในฐานะสื่อสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย ไทยพีบีเอสยังคงมุ่งมั่นสนับสนุน และขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมให้มีคุณภาพและคุณธรรม พร้อม ๆ กับการสร้างระบบนิเวศสื่อคุณภาพ เพื่อสร้างความเป็นพลเมืองและสังคมที่ยั่งยืน

Q 1
ThaiPBS
Q 2

นวัตกรรมไทยพีบีเอส กับการเสริมสร้างพลังพลเมือง ยุค Digital


Locals - ThaiPBS
Locals - ThaiPBS

17 ปี ‘นักข่าวพลเมือง’ จากพลังการสื่อสารพลเมืองสู่สื่อเสริมพลังท้องถิ่น 

สมเกียรติ จันทรสีมา

สมเกียรติ จันทรสีมา

ผู้อำนวยการสำนักเครือข่าย

และการมีส่วนร่วมสาธารณะ

policywatch - ThaiPBS
PolicyWatch - ThaiPBS

เครื่องมือที่ให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน ผ่านการติดตาม ตรวจสอบและมีส่วนร่วมในนโยบายสาธารณะ

ณาตยา แวววีรคุปต์

ณาตยา แวววีรคุปต์

ผู้อำนวยการศูนย์สื่อสารวาระทางสังคม

และนโยบายสาธารณะ

ThaiPBS AI - ThaiPBS
AI Logo

นวัตกรรมเพื่อการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ เข้าใจง่าย พร้อมสร้างความเท่าเทียมในการรับรู้ข่าวสารสำหรับทุกคน  

กนกพร ประสิทธิ์ผล

กนกพร ประสิทธิ์ผล

ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล

17 ปี Thai PBS กับการสร้างพลังพลเมือง

รศ. ดร. วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.


P0

ส.ส.ท. 17 ปี Thai PBS กับการสร้างพลังพลเมือง รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. 17 ปี Thai PBS

กับการสร้างพลังพลเมือง รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. 17 ปี Thai PBS กับการสร้างพลังพลเมือง

นวัตกรรมไทยพีบีเอส กับการเสริมสร้างพลังพลเมือง ยุค Digital


Policy Watch

นวัตกรรมไทยพีบีเอสกับการเสริมสร้างพลังพลเมือง ยุค Digital นวัตกรรมไทยพีบีเอส

P1

ณาตยา แวววีรคุปต์

ผู้อำนวยการศูนย์สื่อสารวาระทางสังคม และนโยบายสาธารณะ

Local

ยุค Digital นวัตกรรมไทยพีบีเอส กับการเสริมสร้างพลังพลเมือง ยุค Digital

P3

สมเกียรติ จันทรสีมา

ผู้อำนวยการสำนักเครือข่าย และการมีส่วนร่วมสาธารณะ

Thai PBS AI

นวัตกรรมไทยพีบีเอสกับการเสริมสร้างพลังพลเมือง ยุค Digital นวัตกรรมไทยพีบีเอส

P2

กนกพร ประสิทธิผล

ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล

17 ปี Thai PBS กับบทบาท “สื่อสาธารณะ”


Thai PBS ให้คำมั่นสัญญาสร้างข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

Thai PBS สร้างสื่อพลเมืองให้เข้มแข็งด้วยเครื่องมือดิจิทัล

Thai PBS สร้างระบบนิเวศสื่อท้องถิ่น เพื่อร่วมกันหาทางออก

box
ไทยพีบีเอส

งดรับกระเช้าแสดงความยินดี

เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นองค์กรที่สนับสนุน และส่งเสริมธรรมาภิบาลเพื่อความโปร่งใสของประเทศ

scan
foundation mobile

© 2025 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย